กระเจี๊ยบเขียวผัดน้ำมันหอย.. รักษาความดัน เป็นยาระบาย ช่วยปราบพยาธิตัวจี๊ด!!

  


สวัสดีค่ะ พบกันอีกแล้วนะคะกับช่วงเวลาแห่งความอร่อย วันนี้ไข่เจียว มีเมนูอร่อยๆมาฝากอีกเช่นเคยค่ะ ซึ่งเป็นเมนูอาหารที่ทำได้ง่ายๆ นั่นก็คือ "กระเจี๊ยบเขียวผัดน้ำมันหอย" ค่ะ พร้อมเคล็ดลับความอร่อยที่จะมาบอก ถ้าอย่างงั้นเราไปดูกันว่า จะอร่อยชวนให้หิวข้าว อย่างที่บอกมั้ย
 
ส่วนผสมที่ต้องเตรียม
กระเจี๊ยบเขียว14
    กระเจี๊ยบเขียว 20 ฝัก(เลือกเอาเฉพาะฝักอ่อนๆ)
    น้ำมันหอย 3 ช้อนโต๊ะ
    กระเทียม 3กลีบใหญ่ (สับละเอียด)
    กระเทียม 5 กลีบ สับละเอียด (เจียวให้กรอบ เหลืองหอม เตรียมไว้)
    น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
    น้ำมันสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ
    น้ำเปล่าสำหรับแช่กระเจี๊ยบเขียว 4 ถ้วยตวง
    เกลือป่น 4 ช้อนโต๊ะ (สำหรับแช่กระเจี๊ยบเขียว)
    น้ำเย็น 4 ถ้วย (สำหรับแช่กระเจี๊ยบที่ลวก)
วิธีทำ
1.นำเกลือป่นใส่ลงในน้ำเปล่าที่เตรียมไว้ คนให้เกลือละลาย จากนั้นนำกระเจี๊ยบเขียวมาตัดหัวตัดท้าย แล้วนำลงแช่ในน้ำเกลือทันที แช่ไว้ประมาณ 10 นาที เพื่อให้ยางที่เป็นเมือกใสๆของกระเจี๊ยวออก แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาดหลายๆน้ำ
กระเจี๊ยบเขียว13
 


2.นำหม้อตั้งไฟ ใส่น้ำลงไปกะพอท่วมกระเจี๊ยบเขียว รอให้น้ำเดือด ใส่กระเจี๊ยบเขียวลงไป คนไปมาเบาๆ ประมาณ 2 นาที ปิดไฟยกลงจากเตา ตักกระเจี๊ยบเขียว ออก แล้วมาแช่ด้วยน้ำเย็นทันที ตักพักใส่ตะแกรงเตรียมไว้
กระเจี๊ยบเขียว15
 
3.นำกระทะตั้งไฟปานกลาง ใส่น้ำมันที่เตรียมไว้ลงไป พอน้ำมันเดือด ใส่กระเทียมที่สับเตรียมไว้ลงไป ผัดไปมา จนกระเทียมเริ่มเหลืองหอม แล้วใส่กระเจี๊ยบเขียวลงไป ปรุงรสด้วยน้ำมันหอย ตามด้วยน้ำปลา น้ำตาลทราย ผัดให้เข้ากัน ชิมรส เพิ่มรสชาติตามใจชอบ ปิดไฟยกลงจากเตา ตักใส่จานพร้อมเสิร์ฟ โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว รับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ
กระเจี๊ยบเขียว12

กระเจี๊ยบเขียว11


กระเจี๊ยบเขียว10

กระเจี๊ยบเขียว9

กระเจี๊ยบเขียว8

กระเจี๊ยบเขียว6

กระเจี๊ยบเขียว5

กระเจี๊ยบเขียว4

กระเจี๊ยบเขียว3

กระเจี๊ยบเขียว2

กระเจี๊ยบเขียว1


กระเจี๊ยบเขียว
**สาระน่ารู้**
ประโยชน์/สรรพคุณของกระเจี๊ยบเขียว
     กระเจี๊ยบเขียว เป็นพืชที่มีคุณสมบัติในการช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารและลำไส้ เพราะในฝักกระเจี๊ยบนั้นมีสารเมือกพวกเพ็กติน (Pectin) และกัม (Gum) ช่วยเคลือบแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ไม่ให้ลุกลาม รักษาความดันให้เป็นปกติ เป็นยาบำรุงสมอง ช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้คงที่โดยรักษาระดับการดูดซึมน้ำตาลจากลำไส้ใหญ่ให้คงที่ จึงเป็นผักที่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน นอกจากนั้นแล้วกระเจี๊ยบเขียว ยังมีสรรพคุณเป็นยาระบายและสามารถแก้โรคพยาธิตัวจี๊ดได้ด้วย แต่ต้องรับประทานติดต่อกันเป็นเวลาอย่างน้อย 15 วัน หรือบางคนอาจใช้เวลา 1 เดือน ได้ทราบประโยชน์ของกระเจี๊ยบเขียวกันไปแล้ว คนรักสุขภาพต้องไม่พลาดนะคะ หากวันไหนนึกเมนูอาหารไม่ได้ว่าจะทานอะไรดี ก็นึกถึงเมนูอร่อยๆเพื่อสุขภาพ ที่ ไข่เจียว.com นำมาฝาก ไปลองทำไว้ทานที่บ้านกันนะคะ